เรื่องย่อคงไม่ต้องหรอกมั้งเพราะถ้าอ่านจนจบก็น่าจะเรียบเรียงเรื่องได้เกือบทั้งหมดละ
►นี่ไม่ใช่หนังรักโรแมนติก
ทำไมถึงบอกว่ามันเป็นผลกระทบที่ส่งผลต่อทั้งผู้แกล้งและผู้ถูกแกล้ง จากเรื่องนี้บอกเลยว่าทั้งโชโกะที่ถูกแกล้งและโชยะที่เป็นหัวโจกรวมทั้งผองเพื่อนมากมายที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับผลกระทบกันไปทั้งหมด เรามาไล่เรียงกันไปทีละคน
โชโกะ ต้องยอมรับว่าพลังใจเธอนั้นยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งมาก เธอถูกกลั่นแกล้งเพราะเธอมีความแตกต่างจากคนทั่วไปจนทำให้เธอต้องย้ายโรงเรียนมานับครั้งไม่ถ้วน เธอแบกรับความเจ็บปวดสารพัดไว้กับตัวและฝืนยิ้มออกมาเพียงเพราะเธออยากได้รับการยอมรับจากเพื่อน ๆ เธอแค่อยากมีเพื่อน! แต่ไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกของเธอเพราะรู้สึกว่าการสื่อสารกับเธอเป็นเรื่องยุ่งยาก น่ารำคาญ สุดท้ายทุกคนก็ตีตัวออกห่างเธอไป หรือไม่ก็กลั่นแกล้งเธอเพื่อขับไล่เธอออกไปให้พ้นสายตา
ต่อให้พลังใจของเธอจะแข็งแกร่งขนาดไหนมันก็มีวันแตกสลาย ในที่สุดความคิดที่อยากจะตายไปให้พ้น ๆ ก็เกิดขึ้น เพราะเธอรู้สึกว่าไม่มีใครต้องการเธอ เธอไม่สามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นได้ แต่โชคดีเหลือเกินที่น้องสาวของเธอ ยูซุรุ ได้เข้ามาปกป้องและโอบอุ้มจิตใจของเธอไว้ได้ทันเวลา
ในที่สุดความรู้สึกอยากตายก็กลับมาอีกครั้งเมื่อกลุ่มเพื่อนเกิดการแตกหัก เธอเสียเพื่อนไปอีกครั้งเพราะปัญหาการกลั่นแกล้งในวัยเด็กที่ยังตามหลอกหลอนชีวิตของเธอ และเธอเชื่อว่าเธอคือศูนย์กลางของเรื่องนี้ เธอคือต้นเหตุให้ทุกคนต้องทะเลาะกัน ถ้าไม่มีเธออยู่คงดีกว่า และนั่นทำให้เธอตัดสินใจที่จะตายและคนที่เข้ามาโอบกอดหัวใจอัดแสนปวดร้าวนี้ก็ไม่ใช่ใคร อิชิดะ โชยะ อดีตหัวโจกที่กลั่นแกล้งเธอนั่นเอง
โชยะ จากเด็กหนุ่มใจกล้าชอบอะไรแบบสุดเหวี่ยงและเป็นหัวโจกของการกลั่นแกล้ง ในภาพยนตร์พยายามทำให้โชยะดูเป็นเด็กดีมากขึ้นมีความเห็นอกเห็นใจเพื่อนมากขึ้น อันที่จริงโชโกะเองก็ได้รับความเห็นใจนั้นเช่นกันจากประโยคที่่ว่า "เธอต้องพยายามมากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นคนอื่นจะเบื่อเธอ" แสดงให้เห็นว่าโชยะเองก็เห็นใจโชโกะอยู่พอสมควร แต่ด้วยความที่โชยะไม่เปิดใจมากพอที่จะทำความเข้าใจถึงความแตกต่างของเขาและเธอทำให้เกิดการกลั่นแกล้งเพื่อไล่เธอออกไปให้พ้นทาง เพื่อเพื่อน ๆ ของเขาจะได้ไม่ต้องลำบากกับการดูแลเธอ
ในที่สุดเรื่องราวก็กลับตาลปัตร เรื่องการกลั่นแกล้งแดงขึ้นมาและต้องหาตัวคนทำผิด ทั้งที่ทุกคนคือส่วนนึงของการกลั่นแกล้งแต่ทุกคนกลับโยนความผิดทั้งหมดให้โชยะ ทั้ง ๆ ที่บางคนช่วยกันแกล้ง บางคนไม่คิดจะห้าม บางคนก็พูดห้ามไปส่ง ๆ เผลอ ๆ ก็เห็นดีเห็นงามกับการแกล้งด้วยซ้ำ แต่ทุกคนกลับเอาตัวรอดแล้วโทษโชยะแต่เพียงผู้เดียว
จากที่เคยแกล้งโชโกะเพื่อกำจัดเธอออกไปให้พ้นสายตา กลายเป็นว่าโชยะต้องโดนการกลั่นแกล้งเหล่านั้นเสียเอง เป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับโชยะที่ทำให้เขาสำนึกในความผิดทั้งหมดทั้งมวลที่เขาเคยก่อไว้และเขาเลือกที่จะแบกรับชะตากรรมอันเจ็บปวดเหล่านี้ไว้กับตัวเองโดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าแท้จริงแล้วคนอื่น ๆ ก็แบกรับความเจ็บปวดในรูปแบบอื่น ๆ ไว้ด้วยเช่นกัน
ส่วนนึงที่ทำให้รู้สึกว่าโชยะในวัยเด็กไม่ใช่เด็กเลวบริสุทธิ์ แต่เป็นแค่เด็กที่ทำอะไรไปโดยไม่ยั้งคิดเพราะเมื่อเกิดปัญหาขึ้นคนที่โชยะคิดถึงคนแรกคือแม่ นั่นแปลว่าแท้จริงแล้วโชยะเป็นเด็กที่มีความกตัญญูคนนึงเลย เสียแค่ว่าเขาคิดไม่มากพอหรือตัดสินใจทำอะไรลงไปเพียงเพราะความรู้สึกชั่ววูบ
โชยะเลือกที่จะตายโดยเหลือ 2 สิ่งที่ต้องทำ สิ่งแรกคือหาเงินจำนวน 1.7 ล้านเยนให้กับแม่ของเขา แทนคำขอโทษและขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นตอน ป.6 และสิ่งสุดท้ายคือการขอโทษโชโกะสำหรับทุกสิ่งที่ทำลงไปในอดีต แต่เหมือนฟ้าเล่นตลกจากคำขอโทษกลายเป็นคำขอเป็นเพื่อนที่เริ่มต้นความสัมพันธ์ของโชยะ โชโกะและเพื่อนคนอื่น ๆ ในที่สุด
อุเอโนะ เธอชอบโชยะเธอพยายามทำทุกอย่างเพียงเพื่อให้โชยะยอมรับในตัวเธอ และนั่นทำให้เธอเห็นดีเห็นงามกับการแกล้งโชโกะ แต่เมื่อเรื่องมันแดงขึ้นเธอก็ต้องเลือกระหว่างเพื่อนคนอื่น ๆ กับโชยะ และเธอตัดสินใจเลือกเพื่อน แต่ด้วยความที่เธอเป็นคนที่ชอบคิดอะไรเข้าข้างตัวเองทำให้เธอโทษโชโกะว่าเป็นคนทำให้ความเป็นเพื่อนของโชยะกับผองเพื่อนต้องพังทลายลง ทั้ง ๆ ที่เธอคือคนนึงที่ทอดทิ้งโชยะเพื่อให้ตัวเองพ้นความผิด เพื่อให้ได้รับการยอมรับจากเพื่อนคนอื่น เพียงเพื่อให้ตัวเองยังมีที่ยืนในสังคม
ซาฮาระ ด้วยความที่เธอเป็นคนที่ดูจืดชืดแต่งตัวไม่เก่งทำให้ไม่ค่อยมีเพื่อน เมื่อจะมีการเรียนภาษามือเพื่อสื่อสารกับโชโกะเธอจึงตัดสินใจที่จะเรียนในขณะที่คนอื่น ๆ มองว่ามันยุ่งยากและลำบาก เพียงเพราะซาฮาระอยากมีเพื่อน แต่สุดท้ายซาฮาระก็กลายเป็นส่วนนึงของการถูกกลั่นแกล้งเธอถูกพูดเหน็บแนมว่าทำตัวประจบเอาหน้า และนั่นทำให้ซาฮาระไม่มาโรงเรียนอีกเลย ในฉบับมังงะบอกว่าเธอย้ายไปนั่งเรียนอยู่ที่ห้องพยาบาลเพราะไม่กล้าไปนั่งเรียนกับเพื่อน
►ทุกคนต้องการการยอมรับจากคนอื่น
เล่าให้ฟังเท่านี้ก่อน น่าจะพอเห็นภาพกันแล้ว แต่ถ้ามีโอกาสจะมาเล่ารายละเอียดของตัวละครอื่น ๆ เพิ่ม จาก 4 ตัวละครที่ผ่านมาคุณน่าจะเห็นภาพชัดเจนพอสมควรแล้วว่าการแสดงออกหรือการกระทำของพวกเขาเกิดขึ้นเพราะอะไร เพราะพวกเขาต้องการให้คนรอบข้างยอมรับ พวกเขาต้องการเพื่อน แต่ระเบียบวิธีคิดของแต่ละคนมันไม่เหมือนกันทำให้การแสดงออกหรือการกระทำของแต่ละคนมันต่างกันไปโดยสิ้นเชิง และการกลั่นแกล้งมันเกิดขึ้นเพราะเราไม่ยอมรับในระเบียบวิธีคิดของคนอื่น เรามองว่าความคิดของคนอื่นมันผิด เราใช้กำแพงหรือความรู้สึกนึกคิดของตัวเองมาปกป้องว่าตัวเองทำถูกแล้วทั้งที่การกระทำของเรามันอาจจะผิดพลาดมากขนาดไหนก็ตามที แต่สุดท้ายแล้วความผิดมันไม่เคยจางหาย มันกลายเป็นปมเล็ก ๆ ในจิตใจที่รอวันแผ่ขยาย อย่างเช่นซาฮาระที่รู้สึกผิดที่ทอดทิ้งโชโกะไปตอนเด็กแต่ก็ปกป้องตัวเองไว้ด้วยกำแพงที่ชื่อว่าความกลัว
►ข้อจำกัดด้านเวลาและความหลังของตัวละครที่ไม่ได้เปิดเผยในภาพยนตร์
มังงะรักไร้เสียง 7 เล่มจบจะมีการบอกเล่าถึงปมของตัวละครแทบทุกตัวไว้อย่างชัดเจนเรียกว่าถ้าคุณได้อ่านฉบับมังงะมาก่อนดูหนังแล้ว หนังเรื่องนี้จะจืดชืดลงไปมากเพราะบ่อเกิดของความเจ็บปวดของตัวละครแต่ละตัวมันไม่เพียงพอ อย่างน้อยที่สุดมีตัวละคร 3 ตัวที่ผมรู้สึกว่าถูกลดทอนความสำคัญลงไปมาก แม่โชโกะ คาวาอิ และ มาชิบะ ถ้าคุณได้อ่านมมังงะคุณจะรู้เลยว่าตัวละครเหล่านี้ผ่านเรื่องราวที่สาหัสมาขนาดไหนโดยเฉพาะแม่ของโชโกะนี่ของจริง สามีทิ้ง...ทิ้งเพราะโชโกะหูหนวก แถมทิ้งในช่วงที่กำลังจะตั้งท้องยูซุรุด้วย คือมึงใจหมามาก ถ้าจะมีตัวละครตัวไหนที่น่ารังเกียจที่สุดในเรื่องนี้ก็ไม่พ้นพ่อโชโกะและญาติฝ่ายพ่อนั่นแหละ
รีวิวมังงะ เผื่อใครอยากซื้อ
ด้วยความที่ปมมันไม่พอมันเลยทำให้ความดราม่าที่ควรจะมีมันดรอปลงไปพอสมควร แม้จะมีการเรียบเรียงและตีความใหม่เพื่อให้เนื้อหามันกระชับและครบถ้วนภายใน 2 ชั่วโมงแต่ผมก็ยังรู้สึกว่ามันไม่เพียงพอ ดูแล้วไม่อิ่ม นั่นจึงทำให้ผมลงคะแนนไว้ให้เพียง 7 จาก 10 ซึ่งน้อยมาก ๆ ในฐานะของผมที่เป็นแฟนคลับรักไร้เสียงและอวยสุดลิ่มทิ่มประตูมาตลอด
สำหรับคนไม่เคยดูมังงะและรู้ทันว่านี่ไม่ใช่หนังรักโรแมนติกคอมเมดี้ คุณน่าจะโอเคกับมันแหละ แต่ถ้าคุณคาดหวังว่าแม่งจะเป็นแบบ Your Name ที่สลับร่างปิ๊งรักข้ามกาลเวลา ขอบอกเลยคุณพลาดละ โคตรพลาด ยิ่งถ้าหลงตามกระแสของทาง M-Pictures ที่โปรโมทอย่างหวานแหววเหลือเกินว่าแกล้งเพราะรัก ชวนคนรักไปดู เละตุ้มเป๊ะ ละ ละ ละ เละตุ้มเป๊ะ รักไร้เสียงแม่งคือหนังดราม่า ดราม่าฉิบหาย ต่อให้ตัดบทลดทอนสารพัดสิ่งออกไปแล้วแม่งก็ยังดราม่าเรียกน้ำตาได้ดีในระดับนึง ไม่งั้นไม่ให้คะแนนถึง 7 คะแนนทั้ง ๆ ที่บ่นฉิบหายขนาดนี้หรอก
►เพลงประกอบดีงาม
หลายคนบอกว่าเกลียดเพลงประกอบยกเว้นเพลงจบ 恋をしたのは ที่ขับร้องโดย aiko แต่สำหรับผมแล้วผมชอบทุกเพลงทุก BGM ช่วงต้นมีการใช้เพลงที่มีจังหวะสนุกสนานแม้กับฉากที่เป็นการแกล้งโชโกะก็เช่นกัน เข้าใจว่าเป็นการทำให้คนดูรู้สึกสนุกสนานไปตามอารมณ์ของโชยะที่ได้แกล้งโชโกะ แล้วค่อยมาตบหัวยุบให้รู้สึกผิดตอนกลางเรื่องถึงท้ายเรื่อง โดยส่วนตัวรู้สึกว่าการใช้ BGM แบบนี้มันช่วยให้คนคล้อยตามได้ง่าย แต่กับคนที่รู้จักรักไร้เสียงอยู่แล้วอาจจะไม่ชอบใจว่าทำไมมึงใส่เพลงสนุกมาในจังหวะที่โชโกะโดนแกล้งวะ ก็คงต้องทำความเข้าใจกันนิดนึงว่าหนังมันทำมาเพื่อให้คนที่ไม่รู้จักรักไร้เสียงดูด้วย
อีกประเด็นนึงคือรักไร้เสียงถูกนำไปเปรียบเทียบกับ Your Name ที่เพลงคือส่วนนึงของเรื่อง ...คือต้องเข้าใจว่า Your Name มันใช้เพลงเล่าเรื่องด้วยอะแก แต่กับรักไร้เสียงแม่งไม่ใช่เลย จะหวังให้เพลงมันออกมาเหมือนกันมันก็ไม่ได้ เอาเป็นว่าโดยรวม BGM เข้ากับบรรยากาศเนื้อเรื่อง และสื่ออารมณ์ออกมาได้ดี น่าประทับใจ จบประเด็นจ้ะ
อีกประเด็นนึงคือรักไร้เสียงถูกนำไปเปรียบเทียบกับ Your Name ที่เพลงคือส่วนนึงของเรื่อง ...คือต้องเข้าใจว่า Your Name มันใช้เพลงเล่าเรื่องด้วยอะแก แต่กับรักไร้เสียงแม่งไม่ใช่เลย จะหวังให้เพลงมันออกมาเหมือนกันมันก็ไม่ได้ เอาเป็นว่าโดยรวม BGM เข้ากับบรรยากาศเนื้อเรื่อง และสื่ออารมณ์ออกมาได้ดี น่าประทับใจ จบประเด็นจ้ะ
ถ้าชอบบทความนี้แล้วล่ะก็ จงกดแชร์ไปให้คนอื่นได้อ่านต่อ!!
เขียน, เรียบเรียง: การลงทุนมีความเสี่ยงกรุณาปรึกษาแม่บ้านก่อนลงทุน, PLAY IS WORK